ทุกท่านทราบหรือไม่ว่า ในปัจจุบันการขนย้ายสิ่งของต่าง ๆ จะสามารถทำได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ด้วยบริการรถรับจ้างทั่วไทยที่ในปัจจุบันเปิดให้บริการกันอย่างแพร่หลาย และหากคุณเคยสังเกตจะเห็นได้เลยว่า ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหนจะต้องเห็นรถคอกบ้าง รถ 6 ล้อบ้าง หรือรถ 10 ล้อบ้าง อย่างแน่นอน แต่คุณเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า รถรับจ้างนั้นเขารับจ้างอะไร หรือมีหน้าที่งานอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นไปดูกันเลยว่า รถรับจ้างคืออะไร และมีหน้าที่ในการทำอะไรบ้าง
รู้จักกับรถรับจ้างทั่วไทย และประเภทของรถรับจ้าง
เชื่อว่าหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบกันอย่างแน่นอนว่า รถรับจ้างทั่วไทยมีหน้าที่อย่างไรบ้าง ซึ่งหน้าที่ของรถรับจ้าง คือ การขนย้ายนั่นเอง ไม่ว่าคุณต้องการย้ายบ้าน หอ หรือคอนโด ก็สามารถเรียกใช้บริการรถรับจ้างได้เช่นกัน หรือหากเป็นการขนย้ายที่ใหญ่กว่านั้น อย่างเช่น การย้ายออฟฟิศ ย้ายโกดัง หรือโรงงานไหนที่ไม่มีรถเพียงพอต่อการขนของ ก็สามารถเลือกใช้บริการรถรับจ้างได้ตามต้องการเลยทีเดียว ทั้งนี้อาจจะยังมีข้อสงสัยต่อว่า การเลือกใช้บริการรถรับจ้างควรเลือกใช้บริการรถประเภทใด และมีรถอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นไปดูกันเลยว่า รถรับจ้างส่วนใหญ่ที่เปิดให้บริการ มีรถประเภทใด
- รถกระบะรับจ้าง
รถกระบะรับจ้างจะถือเป็นรถที่ทุกท่านสามารถเห็นได้ทั่ว ๆ ไป เพราะคนส่วนใหญ่นิยมเรียกใช้บริการรถกระบะกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งรถกระบะรับจ้างยังมีแยกประเภทย่อยไปอีกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น รถกระบะตู้ทึบ รถกระบะแบบติดหลังคา หรือรถแบบคอกกั้น เป็นต้น ซึ่งการเลือกใช้บริการรถกระบะส่วนใหญ่จะเป็นการขนย้ายของไม่ใหญ่และมีปริมาณไม่มากเท่าไหร่นัก อาจจะเป็นการย้ายหอหรือคอนโดนั่นเอง
- รถ 6 ล้อรับจ้าง
สำหรับรถ 6 ล้อจะมีขนาดใหญ่กว่ารถกระบะเล็กน้อย แต่ลักษณะการใช้บริการจะมีความคล้ายคลึงกัน คือ การขนย้ายบ้าน หอ หรือคอนโด แต่อาจจะมีของที่ค่อนข้างเยอะ หรือของชิ้นใหญ่นั่นเอง
- รถ 10 ล้อรับจ้าง
รถ 10 ล้อรับจ้างจะถือเป็นรถที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด โดยรถประเภทนี้จะเหมาะกับการขนย้ายสำนักงานที่มีของเยอะ และมีของขนาดใหญ่ หรือขนย้ายโกดังสินค้า เป็นต้อง และแน่นอนว่าการขนย้ายประเภทนี้จะต้องมีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าเกิดความเสียหายระหว่างขนย้าย
การเลือกใช้รถรับจ้างทั่วไทย หรือรถขนย้ายของเหล่านี้ ทุกท่านจำเป็นต้องเลือกประเภทรถให้ดีเสียก่อน เพราะรถแต่ละประเภทจะเหมาะสำหรับการขนย้าย และปริมาณของสิ่งของที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งรถแต่ละประเภทยังมีราคาในการขนย้ายที่แตกต่างกันอีกด้วย เพราะฉะนั้นในส่วนนี้จะต้องเลือกรถให้เหมาะกับสิ่งของมากที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันความปลอดภัยในระหว่างการขนย้ายนั่นเอง
